เป็นกระทู้ที่พูดคุยถึง เหตุการณ์หลังจากน้ำหายท่วมไปแล้ว
เนื้อข่าว
เมื่อเวลา 10.30 น. ประชาชนชาวตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ได้เดินทางมาเรียกร้องค่าชดเชยบ้านถูกน้ำท่วมที่มูลนิธิรวมใจรังสิต-ปทุมธานี
ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
โดยการนำของนายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล
ประธานชมรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมจังหวัดปทุมธานี
นายคมกริช สินพูนภักดิ์ แกนนำชาวตลาดรังสิต นางวิเชียร ทองรอด
และนายบุญช่วย ชะบางบอน แกนนำหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
จากการเกิดมหาอุทกภัยร้ายแรงตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคม 2554
นี้ทำให้ประชาชนชาวตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ได้รับความเดือดร้อนอย่างร้ายแรง การช่วยเหลือทางภาครัฐและ
แนวทางการฟื้นฟูบ้านเรือนหลังน้ำลดแล้ว
ประชาชนตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ไม่ได้มีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจ
ตลอดทั้งการแสดงความคิดเห็นเพื่อสื่อสารและส่งสัญญาณ
ให้ทางภาครัฐได้รับทราบว่าประชาชนต้องการอะไรบ้างอย่างไร
ซึ่งประชาชนตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ต้องการได้รับความช่วยเหลือน้ำท่วมค่าชดเชยบ้านถูกน้ำท่วมเป็นแบบขั้นบันได
หลังละ 5,000-20,000 บาท และ 30,000 บาท
ตามความเสียหายและระยะเวลาที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
จึงได้ออกมาร้องเรียกค่าชดเชยหลังละ 30,000 บาท
เนื่องจากน้ำได้ท่วมขังเป็นระยะเวลานานเกือบ 3 เดือน
อีกทั้งยังเป็นที่รับน้ำก่อนที่น้ำจะไหลเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
และระยะเวลาการออกมาเรียกร้องของประชาชนครั้งนี้ได้ผ่านไป 2-3 ชม.แล้ว
ถ้ายังไม่มีหน่วยงานทางราชการหน่วยงานใด
มารับข้องร้องเรียนทำให้มวลชนเกิดความไม่พอใจ
จะเดินทางปิดถนนสายรังสิต-ปทุมธานี ตรงบริเวณตลาดรังสิต เพื่อเป็นข้อต่อรองต่อไป
ที่มา
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=543367
ความเห็นที่ 1
ในฐานะสมาชิกชุมชนหมู่บ้านรัตนโกสินทร์๒๐๐ปี
ผมไม่เห็นด้วยที่จะเรียกร้องโดยการปิดถนนสายรังสิต-ปทุมธานี
หรือถนนสายใดๆทั้งสิ้น
ความเดือดร้อนมิได้มีแต่ที่ชุมชนนี้เท่านั้น หรือว่าที่นี้จะเดือดร้อนมากกว่าที่อื่นๆ
การช่วยเหลือค่าเสียหายของรัฐบาลจากภัยธรรมชาติ ควรจะเป็นการให้
ไม่ใช่จากการเรียกร้อง หรือขู่บังคับ
ขอโทษที่ผมเห็นต่าง ครับ
ความเห็นที่ 2
๕๐๐๐ บาทก็ไม่ควรจะให้ เพราะถึงให้ไปก็ไม่พอ
กับความต้องการ เอาเงินส่วนนี้มาเป็นเงินชดเชย
ดอกเบี้ยอาจจะลดดอก ๕๐ % แล้วกำหนดวงเงินกู้
เพื่อซ้อมบ้าน ธนาคารจะให้กู้ตามความเสียหายจริง
แต่ไม่เกินวงเงินกู้ที่กำหนด ชดเชยดอกเบี้ยให้อาจ
๓ ปี เงินจะได้ช่วยได้ทั้วถึงและตรงจุดความต้องการ
สวัสดี
ความเห็นที่ 3
เอะอะก็จะปิดถนนให้คนที่เขาไม่รู้เรื่องเดือดร้อนไปด้วย
เอาหัวแม่ตรีนคิดกันเหรอนั่น!
(ขอโทษเถอะ เหลืออดจริงๆ)
ความเห็นที่ 4
นครสวรรค์ได้นั้นได้เฉพาะบ้านที่พังทั้งหลังนะครับ
ไม่ใช่ว่าได้หมดทุกหลัง ต้องทำความเข้าใจกันก่อน
ที่มีภาพนายกฯ รมต. มหาดไทย และคนอื่น ๆ มายืนถ่ายรูปจับมือชาวบ้านชูเงินที่ได้รับนั้นคือได้รับชดเชย 5 พันบาท ส่วนบ้านที่เสียหายที่จะได้รับ 5 พัน 1 หมื่นถึง 3 หมื่นบานนั้นมีการพิจารณาตามที่ได้รับความเสียหายครับไม่ใช่ได้รับหมด
บ้านที่ได้รับ 3 หมื่นจะเป็นบ้านที่อยู่ติดริมน้ำบริเวณที่พนังกั้นน้ำแตกซึ่งจะมีบางหลังที่พังทั้งหลัง แบบนั้นได้ชดเชย 3 หมื่นบาทครับ
หากชาวหมู่บ้าน 200 ปีเรียกร้องตามระยะเวลาที่โดนท่วมแบบนั้น ชาวอยุธยารอบนอก ชาวชุมแสง บางระกำ และพื้นที่อื่น ๆ ที่โดนน้ำแช่นานกว่า 3 เดือนก็ต้องได้รับด้วยเขาก็ไม่ได้รับไม่เห็นเขาจะมาเรียกร้องโดยการปิดถนนเลยและพื้นที่เหล่านั้นโดนน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ๆ ก็ยังไม่เห็นเขากระทำการที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแบบที่คนคิดปิดถนนจะทำ
ตามไปดูต่อที่
http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U11445211/U11445211.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น