วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รีวิว "เค้าเรียกผมว่าความรัก" VS "สาระแน โอเซกไก" หรือมันจะถึงเวลาพินาศของหนังไทยแล้ว

เป็นกระทู้ที่พูดถึง ภาพยนตร์ไทยกับความเห็นจากผู้ชม

ความเห็นเจ้าของกระทู้

"เค้าเรียกผมว่าความรัก"

ไปดูมาแบบคาดหวังเล็กน้อย พอดูปุ้บก็รู้เลยจากลายเซ็นต์หนังว่า นี่มันหนังไทยใยไหมแนวสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า รัก ที่ผมโคตรจะเกลียดเลย คือผมไม่ชอบหนังเพ้อฝันแบบนี้มาก ประเภทนางเอกเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ พอโตขึ้นแล้วสวย ในขณะที่พระเอกโดดเด่นในรุ่น โตขึ้นชีวิตไม่ได้สวยหรูมากมาย


 ดูไปดูมา เค้าเรียกผมว่าความรัก แทบจะเรียกว่าเดินตามรอยการ์ตูนญี่ปุ่นเลย เพ่อเจ้อ ยิ่งตอนที่ตัวที่อ้วนๆโผล่มาที่ในรถไฟฟ้า ผมแทบจะอาเจียน ลุกออกจากโรงเลย ผมรู้สึกว่าตัวหนังมันเสร่อมาก หนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ดูไปดูมาผมก็อินนิดนึง ดูไปดูมาก็เริ่มยอมรับได้ และปล่อยใจไปกับหนังก็พบว่า ถ้าให้ปีนี้ผมเรียงหนังไทยดีๆในปีนี้ออกมา 5 เรื่อง ยังไง เค้าเรียกผมว่าความรัก มันก็ต้องติด 1 ใน 5 แน่ๆ นั่นแสดงว่าหนังมันมีดีเหมือนกัน

แต่มาคิด  เฮ้ยยยยย ประเทศไทยเรา หนังไทยเรื่องนี้เรียกว่าเป็นหนังไทยที่ดีอันดับต้นๆของปี มันดีได้แค่นี้เองเหรอ คือไม่ได้จะด่าหนังว่าไม่ดีนะ แต่ผมคิดว่า เออ คนไทยมันคงมีข้อจำกัดด้วยระบบนายทุน และมันสมองในการคิดพล้อตหนัง ที่มันคิดได้แค่นี้

 หนังเรื่อง เค้าเรียกผมว่าความรัก เป็นหนังที่เหมือนว่าจะเป็นทีมเดียวกับ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ที่ปัญหาคือ การสรุปจบแบบยัดเยียด แต่ถ้าให้เทียบกัน ผมคิดว่า เค้าเรียกผมว่าความรัก มันจะสรุปได้ดีกว่า สิ่งเล็กๆ แต่มันก็ยังยัดเยียดและดูมีอะไรอีกหลายอย่างที่ขอพูดว่า อิหลักอิเหลื่อ ถ้าชอบการดูหนังไทย ก็ไปอุดหนุนเค้าหน่อย ถ้าเงินเหลือเฟือนะครับ

สาระแน โอเซกไก กับการโปรโมท กับ โรงฉายที่ได้ ถือว่าสัปดาห์แรกคงผ่าน 10ล้านไม่ยากเลย แต่สำหรับผมที่ไปดูมา ผมคิดว่า สาระแนโอเซกไก ไม่สมควรถูกเรียกว่า ภาพยนตร์ที่เอาไว้ให้คนเสียเงินเข้าไปดูในโรงเลยแม้แต่น้อย


คนอาจจะมองว่าผมไม่ใช่เป้าหมาย แต่ผมก็คิดว่ามันตีหัวเข้าบ้าน วิธีคิดของคนสร้างสรรค์งาน สักแต่จะเอาเงินจากคนดู โดยลืมคำว่า ศิลปะ ภาพยนตร์ และผมก็เชื่อว่า หนังจะทำเงินมากกว่าเค้าเรียกผมว่าความรัก และผมก็คิดว่า หนังสั่วๆแบบนี้คงมีภาคต่ออีก และผมก็คิดว่า วงการหนังไทยก็คงจะวนลูปแต่หนังห่วยๆแบบนี้ตลอดไป เป็นวัฏสงสาร เหมือนคนที่ฆ่าตัวตายแล้วต้องกลับมาตายซ้ำซาก

ความเห็นที่ 1

เจ้าของกระทู้ ยังดีนะครับ ที่ รู้ทั้งรู้ว่า หนังที่ไปดู ผลออกมาจะเป็นยังไง ก็มีกะใจไปอุดหนุนหนังไทย ผมเห็นด้วยครับ กับความเห็นของคุณ และผมก็ยัง แอบหวังว่า วงการหนังไทย ที่ผ่านมา ก็มีหนังดีดี มาให้เราดู และคิดว่า คงพัฒนาได้ดีดี อีก แต่ไปๆ มาๆ ก็มาวน เวียนอยู่กับ แนวหนังที่ ทำแล้ว ดัง ทำแล้วทำอีก ซ้ำซาก โดยเฉพาะหนัง ตลก ไร้ปัญญา เสนอเนื้อหา ที่ไม่พัฒนา น่าเบื่อ

ความเห็นที่ 2

เรื่องแรก -
หนังเค้าทำมาขายผู้หญิงที่ชอบเพ้อฝัน คลั่งรัก หมกมุ่นอยู่กับภาพความรักที่สวยงามแบบในการ์ตูน-นิยาย


แต่ถ้าเรายังมีหัวใจมีความรู้สึกอยู่ การจะไปนั่งดูแล้วอินตามก็ไม่แปลกหรอกครับ
เอาเข้าจริงทุกคนก็อยากจะมีรักที่ดีๆกันทั้งนั้นแหละ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


เรื่องสอง -
เห็นด้วยนะ นี่มันก็แค่รายการสาระแน ที่เอาเข้าไปฉายในโรงหนังนี่หว่า
ทำไมเราต้องเสียเงินไปดูอะไรแบบนี้ในโรงหนังเนี่ย

เหมือนกับวันนึง ถ้าชิงร้อยชิงล้าน จะเอาละครสามช่า+ตุ๊กกี้ ไปขยายเนื้อเรื่องให้ยาวเป็นชั่วโมง
แล้วเอาไปฉายในโรงหนังหาเงินจากคนดู .... แบบนั้นผมก็คงรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน

โอเคว่ามันก็ตลก สนุกแบบที่เราชอบนั่นแหละ

แต่ทำไมเราต้องไปดูถึงในโรง ทั้งที่มันก็มีให้ดูฟรีๆในทีวีอยู่ทุกอาทิตย์


เหตุผลเดียวที่ผมจะยอมเสียสละรายได้ของตัวเองไปดูสาระแนโอเซกไก
ก็คือ เนย-แจม ครับ


ความเห็นที่ 3

จขกท.เปรียบเทียบเห็นภาพมาก

รอไปอีก10 20 30ปี หนังไทยอาจจะดีขึ้นก็ได้มั้ง ^^


ความเห็นที่ 4

ห่วยทั้ง 2 เรื่อง

เค้าเรียกผมว่าความรัก "อ่านREVIEW" นี้ตรงใจมาก
http://www.thaicinema.org/reviewsth99_07kaoriakkwamrak.asp
คือผมเกลียดหนัง เพ้อเจ้อเกินอ่ะ เปลี่ยนตัวเองเพื่อใครอะไรงี้
พ่อแม่ขอร้องยังไม่เคยคิดจะเปลี่ยน


ส่วน สาระแน ผมเคยด่าไปแล้ว
ที่อยากบอกคือ คุณหอยเนี่ยเค้าพยายามตลกแต่มันไม่มีความตลกเลย
แม้แต่น้อย คือคุณไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้

มุขตลกเจ็บตัว ผมหาดูได้ตามคาเฟ่ และร้านหมูกะทะจะดีกว่า ขำกว่าเยอะ


ตามไปดูต่อที่

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12804801/A12804801.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น